ปัจจุบันถุงกระดาษคราฟท์ ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก มากแค่ไหนผมไม่ทราบจริงๆ แต่ถุงประเภทนี้ถือว่าเป็นตัวที่ขายดีที่สุดของร้านเลยก็ว่าได้ ส่วนนำไปใส่อะไรกันบ้าง ผมขอบอกได้เลยว่ามีทุกอย่าง ทั้งที่คาดถึงและคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ถ้าจะถามว่าถุงประเภทนี้เหมาะสมสำหรับสินค้าแบบไหนผมคงบอกไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยตามไลฟ์สไตล์ ความชอบ และดุลพินิจของ CEO ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น พวกพืชอบแห้ง สมุนไพรไทย ชากาแฟ เนื้อแดดเดียว ขนมขบเคี้ยว ของใช้ทั่วไป รวมไปถึง เครื่องรางของขลัง ยันตร์กันผี ยาลดความอ้วน โปรตีนเกษตร เมล็ดแตงโม และอื่นๆ อีกมากมาย ก็สามารถนำมาใส่ได้ตามความเหมาะสมของถุงกระดาษคราฟท์แต่ละประเภท
แต่วันนี้ผมอยากจะพูดถึงเรื่อง ถุงประเภทกระดาษคราฟท์นี้ ควรหลีกเลี่ยงการใส่สินค้าประเภทไหนมากกว่า
หลักๆ เลยคือ ถุงชนิดนี้มีส่วนผสมของกระดาษ ไม่ว่าจะเป็นแบบเคลือบฟิล์มหน้า หลัง ด้านในฟอยล์ หรือ คอมโพสิทด้วย พลาสติก PE ก็ตาม ด้วยความที่เป็นกระดาษ ก็ต้องเปียกวันยังค่ำ ไม่ว่าจะซึมเข้าไปตามขอบ หรือการที่เคลือบไม่สนิทซึ่งเกิดขึ้นได้ปกติจากกระบวนการผลิต หรือจะเป็นในส่วนของ defect ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ถุงตัวนี้จึงไม่ถูกกับน้ำ หรือของเหลวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโมเลกุลใหญ่ หรือเล็กก็ตาม โดยอย่างยิ่งเฉพาะ น้ำมัน เพราะเวลาถ้าโดนเนื้อกระดาษแล้ว จะไม่สามารถทำให้กระดาษกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
อีกอย่างถุงตัวนี้ไม่สามารถกันอากาศได้ 100% ถ้าต้องการนำไปบรรจุสินค้าที่ "ไม่ต้องการให้โดนอากาศเลย" แนะนำให้ใช้ถุง Vacuum หรือถุงสุญญากาศ หรือเปลี่ยนไปใช้ถุงซีลกลาง หรือซีล 3 ด้าน ที่ออกแบบมาสำหรับบรรจุก๊าซไนโตรเจนโดยเฉพาะ จะดีที่สุดครับ
อีกอย่างที่ควรระวัง ถุงประเภทนี้ยับง่ายกว่าแบบอื่นๆ เพราะถ้าเกิดรอยแล้วจะไม่คืนรูปเหมือนถุง บางตัว ไม่เหมาะสมสำหรับนำกลับมาใช้ใหม่ ในการขนส่งเกิดรอยยับบริเวณขอบบ้าง ซึ่งทางเราได้คัดแยกออกไปในระหว่างการรีแพคสินค้าแล้ว
ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อถุง ลองเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ของ Packaging ดู Specification ก่อน แล้วค่อยตามด้วย Design จะดีกว่านะครับ
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามเข้ามาทาง Inbox หรือ Cmpacking@cmto.co.th ได้เลยครับ ยินดีให้คำแนะนำตามที่ผมรู้ ถ้ายากเกินไป จะไปถามผู้รู้ หรือ Search google มาให้ครับ
ขอบคุณมากครับ
บริษัท เอ ไอ โอ เทรดดิ้ง จำกัด