5 วิธีสร้างสรรค์ อย่างโดดเด่น โดยใช้ถุงกระดาษคราฟท์ โดย CMPACKING

ถุงคราฟท์ เป็นถุงที่ทำมาจากกระดาษ recycle ด้วยความที่ตัวมันได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่จึงมีสีที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำถุงแบบนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะมีราคาที่ถูก สีสรรดูเป็นธรรมชาติ และยังสามารถนำไป reuse ได้อย่างไม่จำกัดอีกด้วย

1.ถุงป๊อบคอน กับ hand stamp โดยการเน้นสีสรรเฉพาะ ของแต่ละ Favor ก็ดูสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับถุงและดูสวยงามอีกด้วย ถุงกระดาษคราฟท์ข้อดีของมันคือ สามารถเขียนหรือพิมพ์อะไรลงไปก็ได้ เหมือนเขียนบนกระดาษทั่วไป ซึ่งตรงนี้คนออกแบบสามารถออกแบบลวยลายเฉพาะของแต่ละถุงได้เลย แต่ที่แน่ๆตอนนี้ถุงแบบนี้ตอนนี้เรายังไม่ได้นำมาขาย แต่ในอนาคตมีแน่นอน นอนแน่ๆครับ จากรูปตัวอย่างใช้การปั๊มลายโดยใช้ hand Stamp ทำให้ประหยัดต้นทุนและทำได้ในจำนวนมากๆ โดยไม่ต้องส่งโรงพิมพ์ด้วย ประหยัดสุดๆ

2. คราวนี้มาในรูปแบบของถุง Coffee Scrub ตัวนี้ใช้การ Design แบบเรียบง่ายดูดี ไม่เน้นอะไรมากมาย แต่จะมาในรูปแบบของการพิมพ์ ด้วยความเป็นข้อดีของถุงกระดาษ จึงทำให้สามารถพิมพ์กับเครื่อง Ink-jet ได้ นี่ก็เป็นอีกข้อดีนึงของถุงรูปแบบนี้

3.การออกแบบลักษณะนี้เรียกว่า การออกแบบ Style Minimal ซึงจะเน้นความน้อย (แปลตรงตัว) หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า น้อยแต่ดูดี ถ้าต้องการให้สินค้าดูดีควรมี gimmick ในตัวอย่างนี้จะออกแบบโดยการใช้ Sticker ติดอยู่มุมล่างซ้ายถือว่าเป็นจุดนำสายตาที่ค่อนข้างดี ส่วนการใช้ sticker ในงานนี้จะเป็นการ replece สี ซึ่งเครื่องพิมพ์ไม่สามารถพิมพ์สีขาวได้ ในงานนี้การติด Sticker มาแทนที่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แถมยังดูหรูอีกด้วย

4. นี่ก็เป็นอีก 1 ตัวอย่างของ Body scrub การออกแบบลักษณะนี้ จะเน้นชื่อ Brand เป็นสำคัญ เพราะเป็นการทำ Contrast ให้คนสนใจที่ตัวแบรนด์มากที่สุด Sticker ในภาพตัวอย่างนี้ จากงานที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดผมว่าแบบนี้ ดู Simple ที่สุด ดูเรียบง่าย แต่แข็งแรงเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นสร้างแบรนด์ ไม่เน้น ลูกเล่น ไม่เน้น packaging 

5.ตัวอย่างสุดท้าย แบบนี้จะเป็นที่นิยมใน SME บ้านเรา ตามต่างจังหวัด  เป็นการเน้น Function ไม่เน้น Design ดูธรรมดา ซื้อง่ายขายคล่อง เพราะบางครั้งผมเข้าใจว่า ถ้าเน้น Design มากไป ไม่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าก็ขายไม่ออกอยู่ดี ถ้าสังเกตดูดีๆ ถุงตัวนี้องค์ประกอบของงานออกแบบครบ โลโกเห้นชัด ส่วนผสมแสดงด้านหน้าชัดเจน คำเตือนตัวใหญ่

จากที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมด เป็นแค่แบบคร่าวๆ ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าของแต่ละคนด้วย ว่า Traget หรือกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร

เมือคุณมีสินค้าแล้ว มียี้ห้อแล้ว หาแพคเกจจิ้งได้แล้ว สิ่งต่อไปที่คุณต้องหาให้เจอคือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ

ภาพประกอบจาก Internet
CMPK แปลและเรียบเรียงจากบทความ Kraft is King by Copious Bags